ต้องบอกเลยว่าอาการของทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวทีพรีเมียร์ลีก ภายใต้การคุมทัพของกุนซือใหญ่สายเลือดอินทรีย์เหล็ก อย่าง เยอร์เกน คลอปป์ ยังคงโคม่าอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าล่าสุดพวกเขาเพิ่งจะเปิดถิ่นแอนฟิลด์ พ่ายแพ้ให้กับคู่ปรับตัวฉกาจร่วมเมืองอย่างทัพทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ไปด้วยสกอร์ 0-2 จากฝีเท้าของ ริชาร์ลิซอน และ จุดโทษของ กิลฟี ซิเกิร์ดสัน วันนี้เราจึงได้รวบรวม 3 ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในเกมดังกล่าวมาฝากแฟนบอลทุกท่าน แต่จะมีประเด็นอะไรเกิดขึ้นบ้างนั้น ขอเชิญติดตามไปพร้อมได้เลย
1. อาการบาดเจ็บของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

ปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะยังคงตามเล่นงานทีมของ เยอร์เกน คลอปป์ ไม่หยุดหย่อน เพราะว่าในเกมดังกล่าวพวกเขาต้องเสีย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีมจากปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อ ซึ่งต้องบอกเลยว่านี่ถือว่าเสียหายเป็นอย่างมาก เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน สามารถลงเล่นในตำแหน่งปราการหลังจำเป็นได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งการขาดหายไปของเขาทำให้ทัพหงส์แดง ไม่มีนักเตะมากประสบการณ์ลงคุมแนวรับอีกต่อไปแล้ว เพราะพวกเขาจะมีเพียงแค่ แนท ฟิลลิปป์, โอซาน คาบัค, รีส วิลเลียมห์ และ เบน เดวิส เอาไว้ใช้งานเท่านั้น
2. จอร์แดน พิคฟอร์ด โชว์ฟอร์มขั้นเทพ

ถึงแม้ว่า จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติอังกฤษ จะเป็นผู้ร้ายในสายตาของแฟนบอลหงส์แดง จากการทำให้ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้รับบาดเจ็บจนต้องพักยาวทั้งฤดูกาล แต่เขาคนนี้กลับเป็นพระเอกของแฟนบอลทอฟฟี่สีน้ำเงิน อย่างแท้จริง เพราะในเกมที่ผ่านมา จอร์แดน พิคฟอร์ด สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ป้องกันลูกยิงของลิเวอร์พูล ได้หลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นลูกวอลเลย์ของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูกยิงไกลของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ลูกยิงของ เซอร์ดาน ชากิรี รวมถึงลูกยิงใบไม้ร่วงของ จอร์นิจิโอ ไวจ์นัลดุม ในช่วงท้ายเกมด้วย
3. แนวรับของลิเวอร์พูล อ่อนปวกเปียกเหลือเกิน

เกมรับที่อ่อนปวกเปียกของทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือใหญ่สายเลือดอินทรีย์เหล็ก จำเป็นต้องตามแก้ไขกันต่อไป ไม่ว่าจะเป็น เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, แนท ฟิลลิปป์ ไม่สามารถรับมือกับบรรดานักเตะในแนวรุกของเอฟเวอร์ตัน ได้เลย หนำซ้ำพวกเขายังต้องมาเสีย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปอีก ซึ่งถ้าหากปัญหาดังกล่าวยังไม่ถูกแก้ไขในเร็ววันนี้ บางทีการจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งท็อปโฟว์ อาจจะเกิดขึ้นในฤดูกาล 2020-2021 ก็เป็นได้