ถ้าหากจะถามถึงชื่อของกองกลางจอมทัพที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน แฟนบอลจำนวนไม่น้อยจะต้องนึกถึงชื่อของ ลูก้า โมดริช กองกลางจอมทัพดีกรีทีมชาติโครเอเชีย ของทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลกระทิงดุ อย่างแน่นอน เพราะเขาเคยปาดหน้า ลิโอเนล เมสซี และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คว้ารางวัลบัลลงดอร์ ประจำปี 2018 มาครองได้สำเร็จ และวันนี้เราจะพาทุกท่านไปชม 3 เรื่องราวอันสุดน่าเหลือเชื่อ ของผู้ชายที่มีชื่อว่า ลูก้า โมดริช ผู้ที่ถูกแฟบอลยกย่องให้เป็นกองกลางจอมทัพ ที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน
1. เติบโตขึ้นมาท่ามกลางสภาวะสงคราม
ลูก้า โมดริช เกิดที่เมืองซาดาร์ ประเทศโครเอเชีย ภายในครอบครัวที่มีฐานะยากจน เนื่องจากครอบครัวของเขาเป็นผู้ลี้ภัยทางสงครามมาจากประเทศเซอร์เบีย ปู่ของเขาถูกทหารฝั่งตรงข้ามปลิดชีพในสมรภูมิรบ ทำให้พ่อของเขาตัดสินใจหนีข้ามชายแดนมาอยู่ในประเทศโครเอเชีย เพื่อความปลอดภัยของครอบครัว เนื่องจากงานที่หายากจากสภาวะสงคราม บวกกับฐานะที่ยากจน ทำให้พ่อของเขาตัดสินใจเช่าห้องพักเล็ก ๆ ไว้สำหรับอยู่อาศัย และสนามฟุตบอลแห่งแรกของ ลูก้า โมดริช ก็คือลานจอดรถหน้าห้องพักของเขานั่นเอง
2. ถูกบรรดาโค้ช และเพื่อนร่วมทีมดูถูก
กว่าที่ ลูก้า โมดริช จะได้เริ่มต้นลงเล่นฟุตบอลอย่างเป็นจริงเป็นจังกับดินาโม ซาเกร็บ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลโครเอเชีย ก็ต้องรอนานถึงฤดูกาล 2004-2005 เลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าบรรดาสตาฟโค้ช รวมถึงนักเตะภายในทีมชุดใหญ่ของดินาโม ซาเกร็บ ไม่มั่นใจว่า ลูก้า โมดริช จะสามารถลงเล่นให้กับทีมได้ แถมยังมองว่า ลูก้า โมดริช เป็นนักเตะที่ตัวเล็ก และขาดความแข็งแกร่ง จนในที่สุด ลูก้า โมดริช ก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าพวกเขาคิดผิด ก่อนจะย้ายไปค้าแข้งให้กับทัพไก่เดือยทอง ท็อตเทนแน่ม ฮอตสเปอร์ และทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ในปัจจุบัน
3. สิ่งที่เสียใจมากที่สุดในชีวิตการค้าแข้ง
แม้ว่าเส้นทางการค้าแข้งของ ลูก้า โมดริช ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ก็ยังมีสิ่งที่ตัวเขารู้สึกเสียใจอยู่ดี ซึ่งสิ่งที่ทำให้กองกลางจอมทัพดีกรีทีมชาติโครเอเชีย เสียใจมากที่สุดในชีวิตการค้าแข้งก็คือการที่เขาไม่สามารถพาทัพไก่เดือยทอง ท็อตเทนแน่ม ฮอตสเปอร์ คว้าแชมป์มาครองได้เลยแม้แต่รายการเดียว ทั้งที่มีขุมกำลังนักเตะที่ค่อนข้างแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และวันนี้ที่ ลูก้า โมดริช ตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งให้กับทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เขายังได้ให้สัมภาษณ์ในเชิงวอนให้แฟนบอลเข้าใจ และให้อภัยในตัวเขาที่ไม่สามรถนำถ้วยแชมป์มาสู่ทีมได้สำเร็จ