ชื่อของ เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าฟอร์มร้อนดีกรีทีมชาตินอเวย์ แห่งทัพเสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลแดนอินทรีย์เหล็ก เริ่มถูกจับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขายังคงสามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในฤดูกาล 2020-2021 การกดไป 25 ประตู จากการลงสนาม 24 เกม พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือยอดนักเตะอย่างแท้จริง วันนี้เราจึงอยากจะพาแฟนบอลทุกท่านไปชม 3 เหตุผลสำคัญ ที่จะทำให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ กลายเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกในอนาคต แต่จะมีเหตุผลอะไรบ้างนั้น ขอเชิญทุกท่านไปติดตามพร้อมกันได้เลย

1. อายุยังน้อย พัฒนาได้อีกมาก
ฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงเกินห้าม บวกกับชื่อเสียงความเก่งกาจที่เรามักจะได้ยินอยู่เสมอ ทำให้แฟนบอลหลายคนไม่ทราบว่า เออร์ลิง ฮาลันด์ เพิ่งจะมีอายุเพียงแค่ 20 กระรัตเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความเขายังมีโอกาสที่จะพัฒนาฝีเท้าของตัวเองได้อีกมาก แต่นั่นก็ไม่ได้ความหมายว่าฝีเท้าในเวลานี้ของ เออร์ลิง ฮาลันด์ ไม่ดีแต่อย่างใด เพราะว่าเขาก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองหน้าตัวเป้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลกฟุตบอลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบางทีฝีเท้าของ เออร์ลิง ฮาลันด์ ในเวลานี้ อาจจะเหนือกว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยอดกองหน้าตัวเป้าของโลกไปแล้วก็เป็นได้
2. มีสภาพร่างกายที่ยอดเยี่ยม
ปัญหาอาการบาดเจ็บถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งไม่ให้นักเตะดาวรุ่งอนาคตไกล ไม่สามารถก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะระดับโลกได้อย่างเต็มตัว ซึ่งเราก็มักจะได้เห็นปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นกับนักเตะจำนวนมาก แต่เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวไม่น่าจะมาเกิดกับ เออร์ลิง ฮาลันด์ นั่นก็เพราะว่าเขามีสภาพร่างกายที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก แถมยังดูรักษาสภาพร่างกายให้แข็งแกร่งอยู่เสมอ เรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่มีความเป็นมืออาชีพสูงเป็นอย่างมาก ยอดเยี่ยมทั้งในสนามและนอกสนามอย่างแท้จริง
3. รู้จักเติบโตอย่างเป็นระบบ
ย้อนกลับไปในตอนที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ โชว์ฟอร์มขั้นเทพกับเร้ดบลู ซัลซ์บวร์ก เขาได้รับความสนใจหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , เรอัล มาดริด , แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึง บาร์เซโลนา แต่สุดท้ายเขากลับเลือกย้ายไปอยู่กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เนื่องจากต้องการที่จะได้รับโอกาสลงสนามเพื่อพัฒนาฝีเท้าอย่างเนื่อง ถือเป็นการเติบโตอย่างเป็นระบบ ไม่ก้าวกระโดดข้ามขั้นจนเกินไปนัก ซึ่งผู้ที่เป็นคนตัดสินใจเรื่องดังกล่าวก็คือ อัลฟ์-อิงเก้ ฮาลันด์ คุณพ่อของเขานั่นเอง เชื่อว่าถ้าหากถึงเวลาที่เหมาะสม เออร์ลิง ฮาลันด์ ก็จะได้ย้ายไปค้าแข้งให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่ อย่างแน่นอน